1.
การกระจายของแสง (Dispersion
of light)
เมื่อฉายแสงขาวจากหลอดไฟประเภทจุดไส้สว่าง
หรือแสงจากดวงอาทิตย์ให้ผ่านปริซึม แสงขาวจะกระจายออกเป็นแสงสีต่างๆ
เรียงตามลำดับความถี่มากไปน้อย คือ ม่วง คราม น้ำเงิน เขียว เหลือง ส้ม และ แดง
แถบของแสงสีที่กระจายออกจากแสงขาว เรียกว่า สเปกตรัมของแสงขาว (Spectrum of white light)
ในการกระจายของแสง
แสงสีต่างๆ จะมีมุมหักเหแตกต่างกันโดยแสงสีแดงซึ่งมีพลังงานต่ำสุด
ความสามารถในการหักเหจึงน้อยมุมหักเหจึงมีค่ามากสุด ทำให้มุมเบี่ยงเบนของแสงสีแดงมีค่าน้อยที่สุด
ดังรูป
ภาพเเสดงการกระจายของเเสงขาวเป็นเเสงสีต่างๆ
2. รุ้งกินน้ำ (Rainbow)
ภาพเเสดงรุ้งกินน้ำปฐมภูมิ (วงใน) เเละรุ้งทุติยภูมิ (วงนอก)
รุ้งปฐมภูมิ เป็นรุ้งตัวล่าง
เกิดจากแสงขาวส่องทางด้านบนของละอองน้ำ เกิดการหักเห สะท้อนกลับ
และหักเหออกสู่อากาศเข้าสู่นัยน์ตาของผู้สังเกต
รุ้งปฐมภูมินี้จะเห็นสีม่วงอยู่ด้านบน สีแดงอยู่ด้านล่าง
รุ้งทุติยภูมิภูมิ เป็นรุ้งตัวบน เกิดจากแสงขาวส่องทางด้านล่างของละอองน้ำ
เกิดการหักเหสะท้อนกลับหมด 2
ครั้ง
แล้วหักเหออกสู่อากาศเข้าสู่นัยน์ตาของผู้สังเกต
รุ้งทุติยภูมินี้จะเห็นสีแดงอยู่ข้างบน สีม่วงอยู่ข้างล่าง
ภาพเเสดงการเกิดรุ้งปฐมภูมิ (ซ้าย) และทุติยภูมิ (ขวา)
3.
พระอาทิตย์ทรงกลด ( Sun Halo )
ภาพเเสดงพระอาทิตย์ทรงกลด (Sun halo)
ปรากฏการณ์พระอาทิตย์ทรงกลด
เกิดขึ้นจากบรรยากาศของโลกในชั้นโทรโพสเฟียร์ (Troposphere) ซึ่งเป็นบรรยากาศชั้นล่างสุด
และเป็นที่อยู่ของกลุ่มเมฆจำนวนมาก
มีอากาศเย็นจัดตั้งแต่ช่วงเช้าตรู่ก่อนดวงอาทิตย์ขึ้น จนทำให้ละอองน้ำในอากาศ ณ
เวลานั้นๆ แข็งตัวเป็นเกล็ดน้ำแข็งอนุภาคเล็กๆ จำนวนมหาศาลลอยอยู่บนท้องฟ้า
เมื่อพระอาทิตย์ขึ้น และส่องแสงทำมุมกับเกล็ดน้ำแข็งได้อย่างเหมาะสม
จะเกิดการหักเหและการสะท้อนของแสง ทำให้เกิดเป็นแถบสีรุ้ง (spectrum)
คล้ายการเกิดรุ้งกินน้ำหลังฝนตกขึ้น
ส่วนแสงสีที่ตามองเห็นนั้น
จะขึ้นกับการทำมุมของแสงอาทิตย์และเกล็ดน้ำแข็ง
แต่โดยทั่วไปเรามักจะเห็นเป็นแสงสีเหลืองอ่อนๆ มากที่สุด
ถ้าเกิดจากการสะท้อนของแสงจะปรากฏเป็นสีเขียว
แต่ถ้าเกิดจากการหักเหของแสงจะเป็นสีแดงเพลิงในตอนกลาง และเป็นสีน้ำเงินปนแดงตามขอบนอก
ขนาดของพระอาทิตย์ทรงกลดจะมีขนาดแตกต่างกันออกไป
แต่ส่วนมากจะมีขนาดเฉลี่ย 30 องศา
โดยการลากเส้นตรง 2 เส้น
มาบรรจบกันที่ดวงตาผู้มอง ได้แก่
เส้นตรงที่ลากจากกึ่งกลางของปรากฏการณ์มาที่ตาผู้มอง
และเส้นตรงที่ลากจากขอบของปรากฏการณ์มาที่ดวงตาผู้มอง บางครั้งเกล็ดน้ำแข็งของละอองไอน้ำเหล่านี้
จะทำหน้าที่หักเหทางเดินของแสงอาทิตย์ และก่อให้เกิดภาพขยายขึ้น
เช่นเดียวกับที่กระจกหรือเลนส์นูนทำให้เกิดภาพขยาย
4.
มิราจ (Mirage)
ภาพเเสดงการเกิดมิราจ (Mirage) บนท้องถนน
มิราจเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดจากแสงจากท้องฟ้า หักเหและสะท้อนกลับหมดจากชั้นของอากาศร้อนบนพื้นดิน
ที่เป็นเช่นนี้เพราะในขณะที่แสงแดดร้อนจัดอากาศที่ใกล้ผิวถนนจะมีอุณหภูมิสูงกว่า
- อากาศที่อยู่สูงจากผิวถนนขึ้นไป อากาศที่อยู่ใกล้ผิวถนนจึงมีความหนาแน่นน้อยกว่า
- อากาศที่อยู่สูงจากผิวถนนขึ้นไป ความหนาแน่นของอากาศที่แตกต่างกัน
จึงเปรียบเสมือนตัวกลางที่แตกต่างกันดังนั้นเมื่อแสงจากท้องฟ้าเดินทางผ่านความหนาแน่นของอากาศที่แตกต่างกัน แสงจึงเกิดการหักเหได้
และเมื่อมุมตกกระทบโตกว่ามุมวิกฤต จึงเกิดการสะท้อนกลับหมด
งงๆ เขียนะไรมา
ตอบลบความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
ลบมึงอะเขียนอะไร
ลบความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
ตอบลบ